สาวกซูชิเดลิเวอรี่ทั้งหลายคงเคยพบเจอกับเหตุการณ์การสั่งซูชิแล้วรสชาติไม่สดใหม่ ข้าวแข็ง เนื้อปลาไม่นุ่มถูกปากเหมือนไปทานที่ร้านอย่างที่คาดหวัง ทำให้เสียอรรถสรสในการกินซูชิไปมาก ซึ่งวิธีแก้ปัญหาเหล่านี้จริง ๆ แล้วไม่ใช่เรื่องยาก เพียงแค่เรารู้จักสังเกตวิธีการเก็บรักษาและจัดส่งซูชิที่ทางร้านเลือกใช้ ก็จะได้กินซูชิรสชาติดีเหมือนไปนั่งที่ร้านเลยทีเดียว

                รู้หรือไม่ว่าจริง ๆ แล้วบริการซูชิเดลิเวอรี่ถือกำเนิดขึ้นมาตั้งแต่ยุคโบราณของประเทศญี่ปุ่น สมัยที่ยังมีการปกครองแบบที่เห็นโชกุนครองเมืองเหมือนในการ์ตูนอิคคิวซัง แต่คนโบราณที่ไม่ได้มีรถเร็วบริการขนส่งอาหารแบบในปัจจุบัน แล้วทำอย่างไรกันจึงรักษาความสดและรสชาติของซูชิให้ยังคงเดิมจนถึงมือของบรรดาลูกค้าได้สำเร็จ และนี่คือ 3 เคล็ดลับง่าย ๆ ที่ถูกนำมาใช้ ซึ่งสามารถปรับใช้ได้มาจนถึงยุคปัจจุบัน

Sushi

1. เก็บรักษาซูชิที่อุณหภูมิ 5 องศาเซลเซียส

                เรื่องที่สำคัญเป็นอันดับแรก คือ เรื่องของอุณหภูมิที่นำมาใช้ปั้นซูชิ โดยสมัยก่อนจะมีการกำหนดว่านักปั้นซูชิจะต้องเป็นเพศชายเท่านั้น เนื่องจากมีความเชื่อว่าอุณหภูมิมือของผู้หญิงมีการเปลี่ยนแปลงตลอดเวลา เนื่องจากธรรมชาติของการมีรอบเดือนที่ทำให้อุณหภูมิร่างกายสูงขึ้น ต่างกับผู้ชายที่มีอุณหภูมิมือคงที่ และเมื่อปั้นซูชิเสร็จแล้ว หากไม่ได้รับประทานทันทีก็ต้องมีการเก็บซูชิไว้ที่อุณหภูมิ 5 องศาเซลเซียส เพื่อเก็บรักษารสชาติของซูชิไม่ให้ละลายไปกับความร้อนที่มากเกินไป และไม่ให้ถูกทำให้เสียรสไปกับอุณหภูมิเย็นเกิน ที่จะทำให้ซูชิแข็งจนเสียรสสัมผัส ดังนั้นหากบริการซูชิเดลิเวอรี่ใดมีการการันตีเรื่องของการเก็บรักษาซูชิไว้ในอุณหภูมิคงที่ระดับ 5 องศาเซลเซียสตลอดการขนส่งได้ ย่อมช่วยรักษารสชาติที่ดีของซูชิไว้ได้อย่างมาก

2. ข้าวญี่ปุ่นที่นำมาผสมน้ำส้มสายชู ต้องถูกคลุกมาไม่เกิน 8 ชั่วโมง

                ต่อมาเป็นเรื่องเทคนิคของการผลิตซูชิ โดยข้าวที่นำมาใช้ในการผลิตซูชิควรเป็นข้าวที่คลุกผสมน้ำส้มสายชูมาไม่เกิน 8 ชั่วโมง ไม่เก็บข้ามคืน เนื่องจากจะเป็นช่วงเวลาที่ทำให้ข้าวมีรสชาติเปรี้ยวหวานกลมกล่อมดีที่สุด ซึ่งหากมีการผสมข้าวไว้เป็นเวลานานจะทำให้รสชาติของข้าวจืดลง รสสัมผัสของเมล็ดข้าวแข็งขึ้น ทำให้เสียรสชาติซูชิไปมาก

3. กินซูชิภายใน 4 ชั่วโมงหลังปั้น

                สุดท้าย หากทราบเวลาการผลิตซูชิที่เราสั่ง ว่าเป็นซูชิที่เพิ่งปั้นทันทีหลังจากสั่ง และมีบริการซูชิเดลิเวอรี่ส่งถึงมือหลังจากนั้นไม่เกิน 4 ชั่วโมง นี่เป็นสัญญานที่ดีที่คุณจะได้ลิ้มรสซูชิสดที่มีรสชาติของเครื่องปั้นต่าง ๆ ครบถ้วน แต่หากการจัดส่งใช้เวลานานกว่านั้น อาจทำให้รสบางอย่างเสียไปตามเวลา ทำให้ซูชิมีรสชาติอร่อยน้อยกว่าที่ควรจะเป็น

                นอกจากนี้ อีกเรื่องที่ผู้บริโภคควรใส่ใจให้มาก ๆ ก่อนสมัครเป็นขาประจำซูชิเดลิเวอรี่ช่วยเสิร์ฟซูชิอร่อย ๆ ตรงถึงบ้าน คือเรื่องของการอาจผสมสารกันบูด การใช้สีเร่งเนื้อให้เข้มชัด หรือการใช้สารเคมีอื่น ๆ ใส่ลงไปในซูชิ เพราะนอกจากจะไม่ได้รสชาติอร่อยสดใหม่ ยังแฝงไว้ด้วยอันตรายที่เสี่ยงต่อโรคภัยไข้เจ็บมากมาย จำไว้ว่าอย่ามองแต่หน้าสวย ๆ ของซูชิจนต้องเอาชีวิตไปเสี่ยง ถึงในปัจจุบันจะมีบริการซูชิเดลิเวอรี่หน้าใหม่ถือกำเนิดมามากมาย แต่เพียงพิจารณาจาก 3 เรื่องง่าย ๆ เหล่านี้ให้ดี การได้ลิ้มรสซูชิที่มีความอร่อยถูกปากก็ไม่ใช่เรื่องยากเลย