วิธีการสังเกตุลางบอกเหตุ ตามความเชื่อของคนโบราณ

คุณเคยโดนใครทักทำนายหรือได้ยินได้ฟังเกี่ยวกับเรื่องของ ลางบอกเหตุ กันมาบ้างมั้ยครับ ว่ากันด้วยเรื่องของความเชื่อของคนในอดีตจนถึงยุคปัจจุบันแล้ว ลางบอกเหตุ เป็นสิ่งหนึ่งที่ใครหลายคนยึดถือเป็นหลักในการดำเนินชีวิต พิจารณาสิ่งต่างๆ รอบตัวและระแวดระวังภัยพร้อมกับมีสติอยู่เสมอเนื่องเชื่อในสิ่งที่ ลางบอกเหตุ ได้ทำนายไว้ โดยมีหลายครั้งไม่ใช่น้อยที่ว่า ลางบอกเหตุ เหล่านั้นตรงกับเหตุการใช้ชีวิต วันนี้เราจึงขอพาทุกๆ ท่านไปพบกับ วิธีการสังเกตุลางบอกเหตุ ตามความเชื่อของคนโบราณเพื่อเอาไว้เป็นแนวทางส่วนหนึ่งในการดำเนินชีวิตกันครับ

8 ลางบอกเหตุ ตามความเชื่อโบราณ

1. ตุ๊กแกร้องกลางวัน มีเหตุร้าย

ตามปกติแล้วตุ๊กแกที่อาศัยอยู่ในบ้าน มักจะร้องตอนกลางคืน แต่ถ้าวันดีคืนดีเกิดร้องลางวันขึ้นมาไม่ว่าจะร้องกี่ครั้งก็ตามให้ถือว่า เป็นการ บอกเหตุร้ายว่า กำลังจะเกิดขึ้นกับคนในครอบครัว หรือภายในบ้าน ซึ่งโดยปกติแล้วตุ๊กแกจะไม่ค่อยร้องในช่วยกลางวันอยู่แล้ว ซึ่งคนโบราณเชื่อว่า ตุ๊กแกคือ ร่างที่วิญญาณของ ปู่ย่าตายายที่ตายไป แล้วมาอาศัยอยู่ คอยดูแลคุ้มครองเพื่อให้สัญญาณบอกเหตุแก่ลูกหลาน 

2. นกถ่ายรดศรีษะ จะมีโชคร้าย

ปกติแล้วนกนี่มันก็บินไปทั่ว ถ้าไม่ใช่นกเลี้ยง จะชอบมาบินเกาะบนท้องฟ้า ไม่ชอบมาอยู่กะคนเท่าไหร่และเมื่อใดที่คุณกำลังจะออกเดินทางแล้วจู่ๆ นกก็ถ่ายรดที่ศรีษะ คนโบราณว่าไว้ ให้หยุดการเดินทางทันที หรือเลื่อนกำหนดออกไปวันรุ่งขึ้นไม่เช่นนั้นอาจได้รับอันตรายจากอุบัติเหตุได้ 

3. จิ้งจกร้องทัก ห้ามออกจากบ้าน

จิ้งจกในปัจจุบันหาพบได้ง่ายกว่าตุ๊กแก มักจะเกาะ อยู่ตามฝาผนัง ของบ้าน โดยปกติทั่วๆ ไป เรามักจะไม่ค่อยได้ยินเสียงจิ้งจกร้องมากนัก จะ เป็นเพราะมีจำนวนน้อย หรือบางบ้านไม่มีให้เห็นเสียแล้ว หรือไม่ค่อยมีเวลาอยู่บ้านมากนัก จึงไม่ได้ยินเสียงของมัน ตามคำเชื่อของคนโบราณกล่าวว่า หากจิ้งจกร้องทัก จะกี่ครั้งก็ตาม ทว่าเสียงนั้นอยู่ด้านหลังหรือตรงศรีษะของคุณ ให้พยายามเลื่อนการเดินทาง เป็นเวลาอื่น อาจจะเป็นภายในวันเดียวกันก็ได้ แต่ไม่ใช่เวลานั้น เพราะอาจทำให้คุณได้รับอุบัติเหตุหรือไม่มีโชคลาภ แต่หาก เสียงร้องทักอยู่ด้านหน้า หรือซ้าย มือ ให้เดินทางได้ จะทำให้การเดินทางเป็นไปอย่างสะดวกสบาย 

4. ห้ามใส่ชุดดำร่วมงานมงคลหรือเยี่ยมคนป่วย

ชุดสีดำเป็นสีที่คนโบราณถือนักถือหนาว่า เป็นสีแห่งความทุกข์โศก ใช้ใส่เฉพาะงานศพเท่านั้น หรือหากจะใช้แต่งกายสีดำ ก็ไม่ควรเป็นสีดำทั้งชุด ควรเป็นครึ่งท่องใส่ผสมกับสีอื่นๆ ชุดสีดำ จึงไม่นิยมใส่เข้าไปในงานมงคลต่างๆ เช่นงานวันเกิดงาน แต่งงาน หรือแม้กระทั่งไป เยี่ยมผู้ป่วยก็เหมือนกัน เท่ากับว่า เป็นการแช่งให้ผู้ป่วยนั้นตายเร็วขึ้น

5. ห้ามเผาศพวันศุกร์

คนโบราณถือว่า “เผาศพในวันศุกร์ให้ทุกข์กับคนเป็น” และโดยปกติทั่วไปจะสังเกตว่า ไม่มีผู้ใดเผาศพในวันศุกร์ให้เห็นเลย เพราะเชื่อกันว่าวันศุกร์เป็นวันแห่งโชคลาภวันแห่งความร่มเย็นเป็นสุข เหมาะที่จะมีงานมงคลมากกว่างานเผาศพนะ

6. ผึ้งทำรังในบ้าน มีโชค

โดยธรรมชาติแล้ว ผึ้งมักนิยมทำรังตามต้นไม้ใหญ่ที่ขึ้นหนาแน่น และอยู่ในที่สงบไม่พลุกพล่าน แต่เมื่อใดที่ผึ้งมาทำรังในบ้านจะเป็นชายคาบ้าน ใต้หลังคาบ้าน บางบ้านมีผึ้งมาทำรังถึงห้องน้ำก็มี ท่านว่าไว้ว่า อย่าไปไล่หรือทำลายเด็ดขาด จะทำให้เกิดความหายนะขึ้นกับครอบ ครัวเรือนนั้น เพราะผึ้งเป็นสัตว์นำโชค ให้ปล่อยผึ้งทำรังต่อไป เชื่อกันว่า ยิ่งรังใหญ่มากเท่าใด ก็จะมีโชคลาภมากขึ้นเท่านั้น และควรจุดธูปเทียนบูชา รวมทั้งดอกไม้ เพื่อความเป็น สิริมงคลด้วย

7. มือชนกันขณะกินข้าว จะมีแขกมาเยือน

ในสมัยโบราณ ไม่มีการติดต่อสื่อสารที่สะดวกเหมือนปัจจุบันการโทรศัพท์ก็ยังไม่มีใครรู้จักนัก เพราะฉะนั้นเวลาจะนัดหมายกับใครรู้จักนัก เพราะฉะนั้นเวลาจะนัดหมาย กับใคร สักคนก็เป็นไปได้ยาก จะต้องพบกันแล้วนัดหมายในครั้งนั้นกันไปเลยแต่คนโบราณใช้วิธีการสังเกตความเป็นไปได้ว่า ในขณะที่นั่งล้อมวงรับประทานอาหารกันนั้น หากมี 2 คนในวงเอื้อมมือไปหยิบอาหารพร้อมกัน และชนกันที่กลาง สำรับอาหาร เชื่อว่า จะต้องมีแขกมาเยือนกันถึงเรือนชานอย่างแน่นอน ไม่วันนี้ก็เป็น พรุ่งนี้ ก็จะมีการเตรียม ข้าวปลาอาหารรอต้อนรับ และก็เป็นเช่นนี้ทุกครั้งไป

8. ห้ามตัดผมวันพุธ

วันพุธห้ามตัดผม เป็นอีกเรื่องหนึ่งที่ห้ามกันนักห้ามกันหนาเชื่อกันว่า ตัดผมวันพุทธจะทำให้เกิดอัปมงคลกับชีวิตทีเดียวจะเห็นได้ว่า ร้านตัดผมมักจะปิดร้านในวัน พุธกัน บ้างก็อ้างว่า ตัดผมในวันพุธหัวกุดท้ายเน่านั้นเอง

และนี้คือ วิธีการสังเกตุลางบอกเหตุ ตามความเชื่อของคนโบราณที่เรานำมายกตัวอย่างให้ทุกๆ ท่านได้ศึกษาแล้วนำไปสังเกตดูกันครับ หวังว่าจะช่วยให้ท่านดำเนินชีวิตได้ดีและมีสติในการทำสิ่งต่างๆ มากขึ้นนะครับ